• เวีย 61 ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมใหม่ ระดับมาสเตอร์พีซ ในรูปแบบ ‘Pet Allowed’ ชูไฮไลท์เพนต์เฮาส์เพียง 2 ยูนิต บนแลนด์มาร์กใหม่ สุดไพรเวทในซอยสุขุมวิท 61 ส่วนตัวเพียง 61 ยูนิต          เริ่ม 10.9 ล้านบาท*
  • ผ่าน EIA แล้ว พร้อมดำเนินการก่อสร้างในเดือนกันยายนนี้ จัดเต็ม Facilities บนชั้นดาดฟ้ารองรับไลฟ์สไตล์เหนือระดับ และที่จอดรถมากถึง 108%
  • ออกแบบภายใต้แนวคิด Unveil your Living Serenity ขึ้นแท่น Hidden Gem ระดับไอคอนิก สัมผัสความเงียบสงบบนทำเลสุดไพรเวท สะท้อนอันดับ 1 ผู้พัฒนาอสังหาฯ ระดับลักซ์ชัวรี่ และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ของประเทศ
  • ตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุน ด้วย Rental Yield ระดับ 5-6% ต่อปี รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาส ตอบรับกรุงเทพฯ
    มหานครแห่งเอเชีย 
  • 28-29 กันยายน นี้! Exclusive Sales เปิดให้จองสิทธิ์พร้อมกัน 6 ประเทศ ไทย - จีน - ไต้หวัน – เมียนมา - ฮ่องกง - สิงคโปร์ ตั้งเป้ายอดขายกว่า 480 ล้านบาทภายในปีนี้ นัดหมายล่วงหน้า
    เพื่อรับ Exclusive Deal ที่ https://siri.ly/6s0Ifp8

นายสมัตถ์คม ต่างวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แสนสิริ เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดในย่านทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และมหานครแห่งเอเชีย ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ที่น่าอยู่ที่สุดของกรุงเทพฯ ครบครันทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารระดับ Michelin ห้างสรรพสินค้าระดับไอคอนิก รายล้อมด้วยโรงเรียนนานาชาติชั้นนำจำนวนมาก ทั้งยังตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ด้วยคอมมูนิตี้สำหรับสัตว์เลี้ยงคุณภาพสูง รวมถึงไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพอีกเป็นจำนวนมาก และยังเป็น Strategic Location ที่แสนสิริได้พัฒนาโครงการมาแล้ว 10 โครงการ โดยปิดการขายแล้วทุกโครงการ รวมมูลค่าเกือบ 26,000 ล้านบาท ได้แก่ 2 โครงการระดับลักซ์ชัวรี่ ใน Sansiri Luxury Collection คือ The Monument Thong Lo และ KHUN by Yoo inspired by Starck ที่เป็น The First Design Branded Residence แห่งแรกของไทย และอีก 8 โครงการ ได้แก่ Quattro by Sansiri,               HQ by Sansiri, Ceil by Sansiri, taka HAUS, XT Ekkamai และ 3 โครงการภายใต้แบรนด์ Via คือ Via 31, Via Botani และ Via 49”

และล่าสุดคือ โครงการเวีย 61 (Via 61) ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมใหม่จากแสนสิริ แบบ Low-Rise มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท สุดไพรเวทในซอยสุขุมวิท 61 เป็นส่วนตัวเพียง 61 ยูนิต ในรูปแบบ Pet Allowed ราคาเริ่มต้น 10.9 - 50 ล้านบาท* (ราคาเฉลี่ย 219,000 บาท/ตารางเมตร) เป็นอาคารสูง 8 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ด้วย Layout ห้องที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 50 ตารางเมตร ไปจนถึงเพนต์เฮาส์ขนาดสูงสุด 188.75 ตารางเมตร ที่มีเพียง 2 ยูนิตเท่านั้น โดดเด่นด้วยห้องหน้ากว้าง เปิดรับวิวทั้ง 3 ด้าน ออกแบบภายใต้แนวคิด Unveil your Living Serenity ให้ความวุ่นวายอยู่ได้แค่ภายนอก เป็น Hidden Gem ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของความสุนทรีย์รอบด้าน เป็นแซงชัวรี่แห่งการพักอาศัยที่เงียบสงบ ดีไซน์ระดับไอคอนิก เรียบหรู แฝงไว้ด้วยความปราณีตและความหมายที่ลึกซึ้งและงดงาม เสมือนงานศิลป์ล้ำค่าหายาก (Rare Items) ครบทุกบริการหลังการขาย พร้อมมอบการดูแลลูกบ้านแบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่านบริการ PLUS Luxury Service และ LIV-24 ศูนย์ควบคุมเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยแบบเรียลไทม์แห่งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่สร้าง Value Added ให้กับที่อยู่อาศัยที่ถือครองอย่างต่อเนื่อง

“เราพบว่าดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ มีความต้องการรูปแบบห้องที่มีขนาดใหญ่ (2 ห้องนอนขึ้นไป) ซึ่งมีซัพพลายอยู่น้อยมากในตลาด โดยเฉพาะสุขุมวิท 61 ที่ไม่มีแล้ว และที่สำคัญสุขุมวิท 61 เป็นทำเลศักยภาพ หาที่ดินที่จะทำโครงการใหม่ยากมาก ทำเลนี้จึงเหมาะสำหรับการซื้อเก็บไว้เป็นสินทรัพย์หรือเพื่อลงทุน ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต ได้อย่างคุ้มค่า และจากข้อมูลของแสนสิริ เราพบว่าราคาค่าเช่าของห้องพักในเซ็กเมนต์เดียวกัน หากเป็น 1 ห้องนอน อยู่ที่ 50,000 บาท/เดือน และสำหรับ 2 ห้องนอนอยู่ที่ 100,000 บาท/เดือน คิดเป็นผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) จะอยู่ที่ 5-6% ต่อปี ทั้งนี้ แสนสิริจะจัด Exclusive Sales เวีย 61 วันที่ 28-29 กันยายนนี้ ที่ CEIL by Sansiri (ซอยเอกมัย 12) เป็นการเปิดให้จองสิทธิ์พร้อมกันใน 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย - จีน - ไต้หวัน - เมียนมา - ฮ่องกง - สิงคโปร์ ตั้งเป้ายอดขายกว่า 480 ล้านบาทภายในปีนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะ SOLD OUT ทุกยูนิตที่นำมาขายแน่นอนนายสมัตถ์คม กล่าว

ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในปัจจุบัน พบว่ากลุ่มลูกค้า HNWI (High-Net Worth Individual) ยังคงมี     ดีมานด์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะย่านไพร์มโลเคชั่นใจอย่างสุขุมวิท-ทองหล่อ-เอกมัย ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรุ่นใหม่และชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย เชื่อมต่อ Mass Transit และเชื่อมต่อไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างสะดวก และยังเป็นย่านที่อยู่อาศัยและแหล่งไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม                  Top Millionaire ย่านที่อยู่อาศัยคุณภาพสูงเช่นเดียวกับหลายพื้นที่ในมหานครของโลก อย่าง ฟิฟธ์ อเวนิว ในนิวยอร์ก, เคนซิงตัน ในลอนดอน, เซาท์บีช ในไมอามี และ เดอะ พีค ในฮ่องกง โดยเฉพาะซุปเปอร์ไพร์มโลเคชั่นอย่างสุขุมวิท 61 ที่ได้รับรางวัลซอยน่าอยู่ที่สุดในกรุงเทพฯ มีความเงียบสงบ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล ซุปเปอร์มาร์เกต โรงเรียนนานาชาติ และสถานทูต และที่สำคัญแทบไม่มีที่ดินเหลือให้พัฒนาโครงการได้แล้ว รวมถึงการขออนุมัติ EIA เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการในย่านดังกล่าวนี้ทำได้ยาก หากไม่ใช้ผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชาชน